อาการปวดเข่า เข่าเสื่อม เหยียดแล้วฝืด ยืดลำบาก มีเสียงดังก๊อบแก๊บ เป็นปัญหาที่กำลังขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว แม้จะมีกลุ่มผู้สูงอายุใหญ่เป็นอันดับ 1 แต่ขณะนี้กลับพบบ่อยไม่แพ้กันในวัยทำงาน ทีมเภสัชกรเล็งเห็นว่ากลุ่มที่มีอาการไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะจะแก้ไขลำบากขึ้น และเสี่ยงต่อการผ่าตัด โดยมีข้อมูลใหม่ล่าสุด ที่คนอยากหายปวดเข่าไม่ควรพลาด มาแนะนำกัน
แล้วอาการปวดดังกล่าวมาจากไหนได้บ้าง?
ด้วยกิจกรรมที่ต่างกันออกไปแทบทุกอิริยาบท เริ่มตั้งแต่ย่างเท้าออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน ขึ้นบันได เราก็ต้องใช้ข้อเข่ามาช่วยรองรับน้ำหนัก และช่วยขับเคลื่อนร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีผู้ป่วยหลายคนนอกเหนือจากกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอาการปวด บาดเจ็บ จากการใช้งานข้อเข่าที่หนักจนเกินไป
ในขณะเดียวกัน อาการปวดเข่าที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืน สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการที่กล้ามเนื้อตึงตัวจากการใช้งานระหว่างวันมากเกินไปนั่นเอง ทั้งการลุก เดิน ยืน นั่ง ซึ่งหากปวดบริเวณรอบๆ ข้อเข่า มักจะมีสาเหตุมาจากการปวดร้าวบริเวณหลังลงมา แต่ถ้าปวดบริเวณข้อเข่า มักจะมีอาการจากบริเวณด้านในข้อเข่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ หมอนรองกระดูก หรือกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าเกิดการอักเสบมากๆ เราก็จะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ขาหรือข้อเข่า รวมถึงยังมักมีอาการบวม อักเสบร่วมด้วย หากปล่อยไว้นานก็อาจจะเกิดอาการรุนแรงขึ้นได้เป็นลำดับ จนท้ายที่สุดแพทย์อาจพิจารณาว่าควรแก้ไขด้วยการผ่าตัด
แล้วถ้าไม่อยากปวดเข่า ต้องทำอย่างไร?
1. ป้องกันและดูแลตนเองตั้งแต่เริ่มต้น
เมื่อรู้ว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างนั้นมีความเสี่ยงและสามารถส่งผลกระทบต่อปัญหาเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควรได้ ให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมนั้นเช่น งดการยกของที่มีน้ำหนักมาก การขึ้น-ลงบันได และหลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบหรือท่าที่ต้องนั่งทับขาเป็นเวลานานๆ แล้วหันมาปรับพฤติกรรมที่เป็นผลดีต่อสุขภาพของข้อเข่า เช่นการเลือกเครื่องนอนที่เหมาะสม ไม่ให้แข็งหรืออ่อนจนเกินไป การนั่งเก้าอี้ที่มีความสูงเหมาะสมกับร่างกาย เมื่อนั่งแล้วสามารถวางเท้าที่พื้นได้โดยที่เข่าตั้งฉากพอดี และการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหนักในการผ่อนหนักให้เป็นเบา
ในกรณีที่มีอาการปวดเข่าและรู้สึกเจ็บเวลาเดิน ควรพันผ้าพยุงเข่าและใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยแบ่งรับน้ำหนักตัว ไม่ให้ลงข้อเข่าข้างที่บาดเจ็บ ทางที่ดีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองมีอาการบาดเจ็บหรือปวดเข่า ให้พักการใช้งาน หรือใช้การประคบร้อนเข้ามาช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว เพื่อบรรเทาอาการปวดให้ทุเลาลงได้
2. บริหารกล้ามเนื้อและข้อเข่าให้แข็งแรง
อีกแนวทางที่จะช่วยให้ข้อเข่าของเราแข็งแรง ก็คือการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และฝึกเหยียดและยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้แข็งแรง และลดอาการตึงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นให้ผ่อนคลายมากขึ้น โดยงดท่าบริหารร่างกายที่เสี่ยงทำให้ข้อเข่ามีปัญหา เช่น การนั่งยอง คุกเข่า หรืองอเข่าเป็นเวลานาน
3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์ต่อข้อเข่าช่วยได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อต่อพบว่า อาการปวดเข่า ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของข้อเข่าตามวัยและการใช้งานเพียงอย่างเดียว เพราะการเสื่อมสภาพของกระดูก ก็ก่อให้เกิดอาการปวดเข่าได้เช่นกัน ดังนั้นเภสัชแนะนำว่าควรแก้ปัญหาทั้งสองด้านไปพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าวิธีเดิมๆ ซึ่งจะเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาใช้ด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ข้อเข่าเรากลับมาแข็งแรงได้เร็วยิ่งขึ้น คือการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงในข้อเข่า กระดูกอ่อน เส้นเอ็น และเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อเข่า ไปได้พร้อมๆ กัน โดยในร้านขายยา จะมีทางเลือกหลักๆ 3 กลุ่ม คือกลุ่ม Glucosamine และ Condroitin ซึ่งจะเห็นผลเฉพาะกับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงและไม่รีบร้อน เพราะอาจใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไปจึงจะเริ่มเห็นผล หรือกลุ่ม Collagen Type II ซึ่งจะเหมาะกับกลุ่มที่เพิ่งเริ่มมีอาการ เช่นมีเสียงดังก๊อบแก๊บ เริ่มมีอาการตึง แต่ยังไม่ถึงกับเริ่มมีอาการปวด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีนวัตกรรมสารอาหารตัวใหม่จากอเมริกาที่สกัดจากเยื่อเปลือกไข่ธรรมชาติ Natural Eggshell Membrane NEM®คลิกอ่านบทแปล ที่สามารถลดอาการปวดบริเวณข้อเข่าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากมีส่วนผสมที่หลากหลายรวมในตัวเดียว
โดยจากผลวิจัยพบว่าสามารถช่วยฟื้นฟูทั้งข้อเข่า ข้อต่อ กระดูกอ่อน เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ และเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อเข่า ได้ในตัวเดียว จึงเห็นผลในการลดปวด ลดอักเสบ ได้ในเวลาประมาณ 14 วัน และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ เมื่อทานต่อเนื่อง 90 วันขึ้นไป โดยปราศจากผลข้างเคียง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยโดย US FDA ไม่มีปัญหากับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดันโลหิต เป็นต้น
ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ NEM®
โดยในไทยได้มีผลิตภัณฑ์ OVOCAL ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบ 2 อิน 1 ที่มีส่วนประกอบของ Calcium L-Threonate และ NEM® สกัดจากเยื่อเปลือกไข่ธรรมชาติ รวมอยู่ในตัวเดียวกัน
จึงเหมาะสำหรับแก้ปัญหาปวดข้อ เข่า คอ บ่า ไหล่ หลัง มีเสียงดังก๊อบแก๊บ กล้ามเนื้อไม่มีแรง ขาดความยืดหยุ่น รวมไปถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและเสริมสร้างกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อให้กลับมาแข็งแรง ลดแรงกระแทกของข้อและเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่าให้มีความยืดหยุ่น ช่วยฟื้นฟูหมอนรองกระดูก พร้อมเสริมสร้างมวลกระดูกให้กลับมาแข็งแรง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น โดยทั้งหมดเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงปลอดภัยสำหรับการรับประทานในระยะยาว ทั้งในเชิงลดอาการปวดและป้องกันการเสื่อมสภาพของข้อเข่าและกระดูก โดยปราศจากผลข้างเคียง สามารถใช้ได้กับทุกวัย
กลุ่มแคลเซียมควรเลือกใช้
แนะนำว่า Calcium L-Threonate คือกลุ่มที่เภสัชแนะนำ เพราะเมื่อเทียบกับกลุ่ม Calcium Carbonate กลุ่มแรกสามารถดูดซึมได้ดีกว่าถึง 9.5 เท่า ที่สำคัญยิ่งกว่าคือปลอดภัย ไม่สะสม ไม่ก่อให้เกิดนิ่ว และใช้แล้วปราศจากอาการท้องผูก ท้องอืด แน่นเฟ้อ
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีรักษาที่ตรงจุด
หากพักการใช้งานบริเวณข้อเข่า หรือออกกำลังกายแล้ว รู้สึกว่าอาการปวดเข่ายังไม่ดีขึ้น จนเกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสมก่อนที่อาการจะรุนแรงมากขึ้นจนกลับมาแก้ไม่ทัน!
ผู้ที่มีปัญหาปวดเข่า เข่าเสื่อม หรือต้องการตรวจวัดมวลกระดูกฟรี สามารถขอคำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลได้ที่เภสัชกรร้านสยามดรัก เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น G หรือ คลิกที่นี่